ให้บริการตรวจวินิจฉัย รักษาและฟื้นฟูผู้ป่วยที่มีความผิดปกติของระบบประสาทและสมองโดยแพทย์เฉพาะทางด้านระบบประสาทและหลอดเลือดสมอง และนักกายภาพบำบัดที่จะคอยดูแล เพื่อให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีสามารถควบคุมการเคลื่อนไหวได้ โรคเกี่ยวกับระบบประสาทและหลอดเลือดสมองที่พบได้บ่อย เช่น
1. โรคหลอดเลือดสมอง (stroke)
หมายถึง ภาวะที่สมองขาดออกซิเจน เนื่องมาจากเลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอทำให้สมองตายภายในไม่กี่นาที มีอาการดังนี้
แขนขาอ่อนแรงโดนเฉียบพลันหรือมีอาการอัมพฤกษ์ ชาบริเวณใบหน้าซีกใดซีกหนึ่ง
พูดลำบาก หรือไม่เข้าใจในบทสนทนา
ตาพร่ามัว หรือมีปัญหาเรื่องการมองเห็น
มีปัญหาการทรงตัว หรือบ้านหมุน
ปวดศีรษะเฉียบพลัน
มีอาการมึนงงอย่างรุนแรง
2. โรคลมชัก (Epilepsy)
เกิดจากความผิดปกติของระบบประสาทส่วนกลาง ซึ่งทำหน้าที่ในการควบคุมการทำงานของร่างกายจนทำให้เกิดอาการชัก มักเกิดในเด็กและผู้สูงอายุ
3. อาการปวดศีรษะ
เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น ปวดศีรษะไมเกรน ปวดศีรษะจากกล้ามเนื้อตึงตัวจากความเครียด อาการปวดบริเวณใบหน้าเนื่องจากปลายประสาทสมองคู่ที่ห้าอักเสบ ปวดศีรษะที่เกิดจากสาเหตุกระดูกและกล้ามเนื้อต้นคอจากไซนัสอักเสบ ปวดศีรษะจากขากรรไกร ปวดศีรษะจากต้อหิน ปวดศีรษะจากความดันโลหิตสูง หรือปวดศีรษะจากเส้นเลือดสมองแตก
4. โรคพาร์กินสันและการเคลื่อนไหวผิดปกติ
สาเหตุเกิดจากความเสื่อมของเซลล์สมองโดยเฉพาะส่วนที่สร้างโดพามีน (Dopamine) ทำให้โดพามีนมีปริมาณน้อยลง จึงส่งผลให้เกิดความผิดปกติของการเคลื่อนไหว
5. โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง (Myasthenia Gravis : MG)
คือโรคที่มีสาเหตุมาจากระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานผิดปกติผู้ป่วยมีอาการหนังตาตก ยิ้มได้น้อยลงหายใจลำบาก มีปัญหาการพูด การเคี้ยว การกลืน รวมไปถึงการเคลื่อนไหวของร่างกาย
6. โรคเวียนศีรษะ (Dizziness)
สาเหตุที่พบได้บ่อยคือ จากหูชั้นในและจากระบบความดันโลหิต
7. โรคความจำเสื่อม อัลไซเมอร์ (Alzheimer)
เป็นโรคที่เกิดจากความผิดปกติของเซลล์สมองซึ่งมีสาเหตุส่วนใหญ่มาจากความเสื่อมคุณภาพของเซลล์สมองที่มักเกิดขึ้นตามวัย บางกรณีเกิดจากพันธุกรรม
8. โรคสมองเสื่อม (Dementia)
เกิดจากความผิดปกติในการทำงานของสมอง มีการสูญเสียหน้าที่ของสมองหลายด้านพร้อมๆกันแบบค่อยเป็นค่อยไป แต่เกิดขึ้นอย่างถาวร ส่งผลให้มีการเสื่อมของระบบความจำ และการใช้ความคิดด้านต่างๆ ผู้ป่วยจะสูญเสียความสามารถในการแก้ไขปัญหาหรือการควบคุมตนเอง มีการเปลี่ยนแปลงบุคลิกภาพ พฤติกรรม และส่งผลกระทบต่อการทำงานรวมถึงการดำรงชีวิตประจำวัน
9. โรคชาตามปลายมือปลายเท้าหรือโรคปลายประสาทอักเสบ
อาการชาที่บริเวณปลายมือปลายเท้าพบได้บ่อยในวัยทำงาน ถ้าเป็นเล็กน้อยมากกว่า 2-3 วัน และไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้น ให้ลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมดูก่อนอาจจะออกกำลังกาย เปลี่ยนอิริยาบถบ่อยๆระหว่างวัน หากยังไม่ดีขึ้นภายในระยะเวลาไม่เกิด 1 สัปดาห์ ควรรีบพบแพทย์ก่อนมีอาการมากขึ้นอาการชาตามปลายนิ้วมือนิ้วเท้า เกี่ยวกับการทำงานของเส้นประสาทผิดปกติ
10. โรคใบหน้าเบี้ยวครึ่งซีก (Belle’s palsy)
สามารถเกิดได้ทุกเพศทุกวัย ส่วนมากเกิดจากภาวะที่เส้นประสาทควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อใบหน้ามีการอักเสบหรือติดเชื้อไวรัสปลายประสาทคู่ที่ 7 อักเสบหรือได้รับบาดเจ็บ ทำให้กล้ามเนื้อใบหน้าอ่อนแรง หลับตาไม่สนิทตาแห้ง ดื่มน้ำมีน้ำไหลจากมุมปาก บางรายมีอาการลิ้นชาหรือหูอื้อร่วมด้วยส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นเร็วภายใน 24-48 ชั่วโมง
การบริการของเรา
ตรวจวินิจฉัยและรักษาความผิดปกติของโรคระบบประสาททุกประเภท เช่น
- โรคหลอดเลือดสมอง
- โรคเส้นเลือดในสมองตีบ
- โรคเส้นเลือดในสมองอุดตัน
- โรคเส้นเลือดในสมองแตก อัมพฤกษ์ อัมพาต แขนขาอ่อนแรง
- โรคลมชัก
- โรคพาร์กินสัน และการเคลื่อนไหวผิดปกติ
- อาการปวดศีรษะ เวียนศีรษะ บ้านหมุน
- โรคอัลไซเมอร์
- โรคสมองเสื่อม (Dementia)
- โรคชาตามปลายมือปลายเท้า หรือโรคปลายประสาทอักเสบ
- โรค Belle’s Palsy (โรคใบหน้าเบี้ยวครึ่งซีก)